เปรียบเทียบ ธุรกิจ Online กับ ธุรกิจ Offline ต่างกันอย่างไร ?
ธุรกิจ Online คืออะไร ?
ขอเริ่มต้นแนะนำและอธิบายก่อนนะครับ ธุรกิจออนไลน์คืออะไร เค้าทำกันอย่างไร และมีเครื่องมือถืออะไร ธุรกิจออนไลน์คือ เรายกร้านค้าเรา สร้างร้านค้าเราไปอยู่ในระบบ อินเตอร์เน็ต อาจจะเป็น ทำร้านค้าบน Website, Facebook Fanpage , ทำช่อง Youtube , เปิดร้านค้าใน , Shoppee , Lazada , Maketplace ต่างๆ , ถ้าเป็นรูปแบบร้านอาหาร ก็ไปฝากร้านในรูปแบบ Foodpanda , Line Man , Lalamove , Grab bike , ปักหมุดใน Google my business โดยคนซื้อ ไม่รู้จักกันมาก่อน อยู่กันคนละพื้นที่ก็ได้ อยู่พื้นที่เดียวกันก็ได้ อยู่พื้นที่ใกล้กันก็ได้ สรุปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่สัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าถึง ไม่ต้องเห็นหากัน สื่อสารกันผ่านทาง โซเซียมมีเดีย ผ่านรูปภาพ เนื้อหา บทความ เรื่องราว วีดีโอ กันก็เพียงพอล่ะครับ ถ้าสนใจค่อยโทรคุยโทรติดต่อ ถ้าสินค้าใช่ ราคาโดน การซื้อขายก็สำเร็จครับ
ปัจจัยอะไรที่ทำให้สามารถทำธุรกิจ Online ได้ ?
สำหรับพ่อค้าแม่ค้า ที่กำลังจะเริ่มกระโดดเข้ามาที่ตลาดการค้า ออนไลน์ อันดับต้นๆเลยคือ องค์ความรู้ครับ แต่พูดถึงตรงนี้อย่าเพิ่งสะดุง ว่าเราไม่มีความรู้ เราจะเริ่มยังงัย อันนี้เรียนรู้ได้ครับ ไม่รู้ก็ต้องศึกษา เรียนรู้ครับ ใฝ่หาความรู้ ช่องทางการเรียนรู้มีเยอะ ช่องทาง Youtube , สมัครลงคอร์ส ออนไลน์ ขอคำแนะนำคนที่เค้าเริ่มมาก่อนเรา ศึกษาแนวทางจากเค้าและนำมาประยุกต์เป็นแบบของเรา อ่านบทความบทในอินเตอร์เน็ต ทุกคนก็เริ่มจากไม่รู้ครับ เพราะมหาวิทยาลัยไม่ได้สอนหลักสูตรการค้าออนไลน์ ฉะนั้นทุกคนก็เริ่มจาก 0 จากไม่รู้เหมือนกัน
เครื่องมือ อะไรบ้างที่จะทำงานออนไลน์ได้ ?
จากหัวข้อที่แล้ว ผมได้แนะนำให้หา องค์ความรู้ การเรียนรู้ ห้วข้อนี้ผมจะขอแนะนำ เครื่องที่ใช้ในการทำงานออนไลน์ได้ จัดการงานออนไลน์
#1 คอมพิวเตอร์ หรือ Notebook ครับหรือจะเป็นมือถือสมาร์ทโฟนของเราก็ได้ แต่สำหรับผมนะครับผมใช้สมาร์ทโฟนเวลานานๆ ผมรู้สึกเมื่อยคอ เมื่อยสายตา ผมเลยถนัด คอมพิวเตอร์มากกว่านะครับ แต่เพื่อนท่านใดถนัดสมาร์ทโฟนก็ได้นะครับ
#2 กล้องถ่ายรูป หรือสมาร์ทโฟนของเราก็ได้ครับ ใช้ทำอะไรทำไมต้องมีครับ อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น การขายออนไลน์เราขายผ่านสื่อ Social media สื่อสารการทางรูปภาพ วีดีโอ นำเสนอสินค้า ผ่านรูปภาพ ผ่านวีดีโอ ผ่านบทความ เราต้องถ่ายรูปสินค้าเป็นด้วยครับ
#3 ฉากหลังเพื่อการถ่ายรูป หัวข้อนี้อย่าเพิ่งลงทุนซื้อมานะครับ ใช้ของที่เรามีไปก่อน หรืออยากจะลงทุนให้ไปซื้อกระดาษขาวฉากหลังสีขาวที่ร้านเครื่องเขียนได้ครับ หรือถ้าไม่มี ใช้กระดาษ A4 สีขาว เทปกาวสีใส แปะต่อกันก็ได้ครับ ประหยัดต้นทุนดี
#4 ไฟไลฟสด ไฟถ่ายรูป หัวข้อนี้อย่าเพิ่งลงทุนซื้อมานะ ถ้ามีทุนค่อยซื้อ ใช้แสงแดด ธรรมชาติก็ได้ครับ หรือมุมบ้าน มุมห้องที่แสงสว่างๆหน่อยก็ถือว่า ใช้งานได้แล้วครับ ถ้าอยากรู้ว่าไฟไลด์สดเป็นแบบไหน คลิกที่ลิงค์ได้เลยครับ
#5 โต๊ะวางถ่ายรูปครับ อันนี้ก็โต๊ะอะไรบ้างครับ ที่เรามีสามารถวางสินค้าเราถ่ายูปได้ มีพื้นที่นิดหน่อย
#6 ขาตั้งกล้องกล้องถ่ายรูป อันนี้จำเป็นสำหรับการถ่ายรูปมากครับ ทำให้เราสามารถถ่ายรูปออกมาสวย และช่วยงานเราได้เยอะ ขาตั้งกล้องแบบไหนล่ะ คลิกดูที่ลิงค์ตัวอย่างได้ครับ
#7 แหล่งสินค้าและแหล่งรูปภาพ แหล่งวีดีโอ ข้อมูลตรงนี้ สินค้าบางตัวเราหาจากแหล่ง โรงงานได้นะครับ แหล่งร้านค้าขายส่ง เช่นจากแหล่งโรงงานจีน เว็ปไซต์ 1688 , Taobao , Aliexpress , Tmall , Amezon , Ebay (ตรงนี้ผมมีบริการรับหาสินค้า รับนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศด้วยนะครับ) มองหาสไลด์ด้านขวามือ หรือจะเป็นเจ้าของสินค้า เจ้าของแบนด์ในไทย เค้าจะมีรูปให้เราใช้งานเลยครับ ถ้าขั้นตอนนี้ เค้ามีรูปให้ใช้งาน ขั้นตอนที่ 2-6 ก็ตัดออกได้เลยครับ
#8 โปรแกรมตัดต่อภาพ Photoshop อาจจะใช้โปรแกรมอื่นก็ได้นะครับ แต่ผมใช้งานโปรแกรมนี้คล่องแล้ว ผมเลยแนะนำ โปรแกรมอันนี้ครับ ผมสอนการใช้งานฟรีด้วยนะครับ มองหาเมนูด้านขวามีลิงค์ให้คลิกเข้าไปเรียนรู้ได้นะครับ โปรแกรม Photoshop เป็นโปรแกรมสำหรับออกแบบ กราฟฟิกดีไซเนอร์ เมื่อเราได้รูปสินค้ามาแล้ว เราสามามารถ นำรูปมาใส่แบนด์เนอร์ของเรา มาใส่ข้อความในรูป ช่วยส่งเสริมการขาย ตัดต่อ Dicut เอาเฉพาะบางส่วนมาทำในแบบและสไตล์ของเรา ตามต้องการได้
ขายของออนไลน์ขายที่ไหน ?
ก็ตามแพลตฟอร์ม Social media ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
# เปิดช่อง Youtube ฟรี นำสินค้าเรามาอัดวีดีโอ รีวิวการใช้งาน อัพโหลดขึ้น Youtube ไว้
# ทำ Website ร้านค้าออนไลน์ของเราขึ้นมาเอง ตรงนี้ค่ามีใช้จ่าย เป็นรายปี ค่าเช่า Host , เค่าเช่าโดเมน เป็นรายดี ปีล่ะ ประมาณ 1,600 – 2,500 บาทต่อปีแล้วแต่เจ้าที่เราเลือกใช้งาน หัวข้อนี้ผมมีคอร์สสอนไว้ด้วยนะครับ มองหาสไลด์ขวามือได้เลยครับ หรือทักแชท Line ด้านขวามือได้เลยครับ
# Lazada , Shoppee ตลาดนัดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดร้านค้า ฟรีครับ ใช่ครับ ฟรี แต่เค้าจะหักค่า คอมมิชชั่น 3-8 % จากราคายอดขาย ค่าการตลาดเค้าครับ แต่ต้องทำใจนะครับ มีดีก็ต้องมีเสีย คู่แข่งตัดราคากันเละ โดนแกล้งเมื่อสินค้าตัวนั้นขายดี ว่าละเมิสลิขสิทธ์ ทำให้สินค้าตัวนั้นโดน ลบออก และทำผิดกฏจะมีบทลงโทษกับค้าค้า อาจจะจำกัด ออเด้อ การสั่งซื้อต่อวัน หักคะแนน และอีกหลายอย่าง จนกว่าร้านเราจะพัฒนาปรับปรุงพฤติกรรม แล้วเราร้านจะเป็นปกติ แต่ข้อดี เค้าทำการตลาดให้ ผลักดันสินค้าที่ขายดี ระบบขนส่งรองรับ การจัดการเรื่องการเงินให้ แต่เงินจะช้าหน่อย 7 วันโอนให้ที ฉะนั้นเราต้องมีเงินหมุนในร้าน พอสมควร
# Facebook Fanpage ตรงนี้จะมรประสิทธิภาพสูงสุด เราต้องมีเงิน ยอิงแอดโฆษณาครับ และมีคนติดตาม Page มากพอสมควร เจ้าของ Page และผู้ติดตามต้องมีปฏิสัมพันธ์ก่อน ค่อยจะขายสินค้าได้ เพราะอย่างงั้นมันก็เหมือนเราไปขายของอยู่กลางป่า เงียบไม่มีคนเดินผ่าน
# Food panda , Line Man , Lalamove , Grab bike ตรงนี้เราต้องสมัครเข้าร่วมกับเค้านะครับ แต่หักค่า คอมมิชชั่น ก็หนักพอควร
ร้านค้า Offline คืออะไร ?
เป็นเรื่องเห็นกันจนชินตา เกิดมาจำความได้แล้ว ก็เจอแล้วครับ ร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ตามตลาด ตึกแถว อาคารพาณิชย์ ห้างร้านต่างๆ ร้านสะดวกซื้อ ผมอธิบายเท่านี้คงเห็นภาพ ถ้ายังไม่เห็นภาพ เข้ารถไปตามถนนต่าง ที่เค้าเป็นร้านค้า นั้นแหลครับที่เค้าเรียก ร้านค้า Offline อยากได้อะไรก็ กำเงินสด มาซื้อที่ร้าน ได้เลือกของ เห็นของ เห็นสินค้าตัวจริง
จะเปิดร้าน Offline ต้องทำอย่างไร ?
#สินค้าที่เราจะขาย ก็หนีไม่พ้นหรอกครับ เราต้องคิดว่าเราจะขายอะไร สินค้าที่เราจะขายคนพื้นนั้น เค้าบริโภคไหม พฤติกรรมคนแถวนั้นชอบอะไร พื้นฐานของคนแถวนั้น เป็นคนทำงานอะไร และคนจำพวกนั้นๆ เคยบริโภคอะไร
#หาทำเลที่ตั้งร้าน เมื่อได้ทำเลที่ตั้งร้านแล้ว ก็ต้องดูบริเวณแถวนั้นมีเจ้าตลาดอยู่ไหม มีคู่แข่งสินค้าที่เราจะขายไหม หรือดูร้านค้าแถวนั้น มีสินค้าไหนที่มันส่งเสริมสินค้าเราไหม เช่น เราขายเสื้อผ้าแฟชั่น แต่มีร้านกระเป๋า เปิดอยู่ข้างๆ มีโอกาสที่ลูกค้า กระเป๋าจะมาซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น
#มัดจำค่าเช่า ทำสัญญาณเช่า ติดต่อแหล่งส่ง สั่งซื้อสินค้า มาลงร้าน ลงทุนอุปกรณ์ตกแต่งร้าน มีแต่ลงทุนๆ ลงทุนไปก่อน ยังไม่รู้จะขายได้ไหม แต่ถ้าได้ทำเลดี จับกลุ่มลูกค้าได้ หาสินค้ามาขายให้ถูกต้อง โอกาสจะรวยๆ ก็มี งั้นร้านค้าเค้าอยู่ไม่ได้หรอก แต่มองถึงความเสี่ยง มันเสี่ยงมากกว่า เปิดร้านค้าออนไลน์ เพราะเราลงทุนไปก่อนแล้ว
#เอาของเข้าแล้วนั่งเฝ้าร้าน เปิดขายหน้าร้านเลย
#ขายของได้ ทำสต็อกเช็คสต็อก หน้าที่ก็วนๆ อยู่อย่างนั้น เดินทางไปไหนก็ไม่ค่อยสะดวกเพราะต้องมาเปิดร้าน
ข้อดีของเปิด Offline มีอะไรบ้าง?
#เปิดร้านวันนี้ ได้ขายของเลย ไม่ต้องรอการทำตลาด เปิดร้านวันนี้ สามารถขายของได้เลย แต่จะได้มากได้น้อยเป็นอีกเรื่องนึงนะครับ
#ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่าย ปิดการขายได้ไว มีโอกาสได้พูดคุย เมื่อสินค้าที่ใช่ อยู่ตรงหน้า มีโอกาสได้หยิบจับของ ทดลองใช้งานได้คำแนะนำที่ดีหน่อยโอกาสจะซื้อก็มีสูงมาก
#มีโอกาสที่จะได้ลูกค้าประจำ เมื่อมีหน้าร้าน คุณภาพสินค้าดี แม่ค้า พ่อค้า แนะนำดี อุ่นใจเมื่อซื้อสินค้าไปแล้ว กลับมาเปลี่ยน หรือขอคำแนะนำได้ โอกาสจะได้ลูกค้าประจำมีเยอะ
#คู่แข่งทางการตลาดน้อย เมื่อการค้าดี สินค้าที่ใช่ บวกกับทำเลทอง คู่แข่งก็เพราะตามเพราะการเปิดหน้าร้าน ไม่ใช่อยากจะเปิดก็เปิด ต้องรอตึกแถวนั้นว่างไหม รอห้องแถวนั้นว่างไหม และจำกัดขอบเขตคู่แข่งไปในตัว คู่แข่งมีก็มีในบริเวณนั้นแหล
ข้อเสียของเปิด Offline มีอะไรบ้าง?
เหรียญมี 2 ด้าน ธุรกิจก็มีทั้ง ข้อดีและข้อเสีย มาดูข้อเสียของการเปิดร้าน Off line กันครับ
#ใช้ทุนเริ่มต้นธุรกิจเยอะ ลงทุนก่อน เก็บกำไรทีหลัง ถูกครับเราต้องลงทุน ตั้งแต่เช่าหน้าร้าน เงินมัดจำล่วงหน้า ตกแต่งหน้าร้าน อุปกรณ์ภายในร้าน ลงของก่อนเลย ยังไม่รู้เลยว่า สินค้าที่ลงร้าน ขายได้หรือป่าว
#จำกัดการขาย ลูกค้าก็จะเป็นคนพื้นที่บริเวณนั้นครับ มีเพดานการขาย
#มีสินค้าตัวตาย สินค้าค้างสต็อกขายไม่ออก เป็นเรื่องปกติครับที่สินค้าภายในร้านจะมีตัวค้างสต็อก เราคงเลือกสินค้าให้มันโดนใจลูกค้าทุกตัว มันเป็นเรื่องยาก
#ไม่อิสระ ไปไหนไม่ค่อยได้ต้องมีคนเปิดร้านเสมอ
#ดินฟ้าอากาศมีผลต่อยอดขายแต่ล่ะวัน
บทสรุปเปรียบเทียบ ธุรกิจOnline & ธุรกิจ Offline มีข้อดี ข้อเสียกันอย่างไรบ้าง?
ข้อดีของเปิดร้าน Online | ข้อเสีย ของเปิดร้าน Online | |
---|---|---|
1 | เริ่มต้นลงทุนธุรกิจน้อย ใช้เงินน้อย ลงทุนน้อย | ต้องมีองค์ความรู้เยอะ ศึกษาเยอะ เรียนรู้เยอะ |
2 | มีโอกาสทำการตลาดก่อน ทดสอบตลาดก่อน | ต้องเล่น Social Media คล่อง Facebook, line , Youtube |
3 | ยังไม่ต้องลงทุนสินค้าเป็นจำนวณมาก อาจจะซื้อสินค้าตัวอย่าง 1-2 ชิ้นมาตรวจสอบคุณภาพ มารีวิว ทำการตลาดก่อน | ทดสอบตลาดเยอะ ทดสอบสินค้าเยอะ จนกว่าจะหาสินค้าเจอ |
4 | ไม่มีเพดานการขายสามารถขายให้ทุกคนทั่วประเทศที่มีสัญญาณอินเทอร์เนต | ด้วยเป็นออนไลน์ เปิดร้านง่ายต้นทุนต่ำ คู่แข่งเยอะ ตัดราคากันง่าย ทำให้ตลาดเสีย |
5 | ลงทุนน้อย เจ็บตัวน้อย ถ้าขายไม่ดี ก็เจ็บตัวไม่เยอะ | เปรียบเทียบราคากันง่าย ลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจไม่ซื้อร้านเราได้ง่าย |
ข้อดีของเปิดร้าน Off line | ข้อเสีย ของเปิดร้าน Off line | |
---|---|---|
1 | ถ้าได้ทำเลทอง ขายดีรวยทันตาเห็น ไม่ต้องทดสอบตลาดนาน | ต้องใช้ทุนเยอะในการทำกิจการครั้งแรก ดีก็ดีไปเลย ถ้าพลาดมีโอกาสเจ็บตัวเยอะ |
2 | ลูกค้ามีความเชื่อมั่น ที่จะซื้อสินค้า มีที่ตั้งหน้าร้านที่แน่นอน | ไม่มีโอกาสได้ทดสอบตลาดก่อนเริ่มขายจริง |
3 | จำกัดพื้นที่ทำให้คู่แข่งน้อย ถ้าได้ทำเลดี ขายดี หาคนดีแตกยาก | สภาพดินฟ้า อากาศมีผลต่อยอด |
4 | มีโอกาศปิดการขายได้เยอะเพราะลูกค้า เห็นสินค้าได้ทดสอบการใช้งาน | มีเพดานการซื้อสินค้า เพราะจำกัดเฉพาะพื้นที่นั้น บริเวณนั้น |
5 | การเปรียบเทียบราคายาก เพราะไม่มีราคาให้เทียบ | จำกัดการขายเฉพาะคนพื้นที่นั้นๆ ไม่ค่อยมีลูกค้าหน้าใหม่ |